วันไวท์เดย์ (White Day) คือวันอะไร? มาดูความพิเศษของวันนี้กัน PASA24 80 แชร์ หรือรู้ไม่ว่า วันที่ 14 มีนาคม ของทุกปีคือวันอะไร? คำตอบคือ "วันไวท์เดย์" (White Day) นั่นเอง แล้ววันไวท์เดย์ คือวันอะไร กันนะ? เรียกได้ว่าวันนี้เป็นอีกวันสำคัญที่ถือว่ามีความพิเศษไม่แพ้วันวาเลนไทน์เลย เริ่มต้นจากญี่ปุ่น แต่ขยายความนิยมไปทั่วเอเชีย กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่คู่รักและคนพิเศษจะได้แสดงออกถึงความรู้สึกผ่านของขวัญ ไม่ว่าจะเป็น ช็อกโกแลต มาร์ชเมลโล่ หรือแม้แต่เครื่องประดับแล้ววันไวท์เดย์ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงมีความสำคัญ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ประวัติ วันไวท์เดย์ และกิจกรรมที่ทุกคนทำร่วมกันในวันนี้ รวมไปถึงเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับวันไวท์เดย์ กว่า 20 คำสารบัญเนื้อหาวันไวท์เดย์ คือวันอะไร? ความเป็นมาของ วันไวท์เดย์ (White Day) วัฒนธรรม และกิจกรรมในวันไวท์เดย์ 1. กฎของไวท์เดย์ ของขวัญต้องแพงกว่าเดิม! 2. ประเภทของของขวัญ และความหมายแฝง ทำไมวันไวท์เดย์ถึงเป็นมากกว่าวันตอบแทนความรัก? 20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวันไวท์เดย์ (White Day) พร้อมคำอ่านและความหมาย วันไวท์เดย์ มากกว่าของขวัญ คือความหมายที่ซ่อนอยู่ในทุกคำตอบแทน วันไวท์เดย์ คือวันอะไร?วันไวท์เดย์ (White Day) เป็นวันสำคัญที่จัดขึ้นในวันที่ 14 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันสำหรับตอบแทนความรัก โดยผู้ชายที่ได้รับของขวัญหรือช็อกโกแลตจากผู้หญิงในวันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์) จะมอบของขวัญตอบแทนให้กับผู้หญิงในวันนี้ และของขวัญที่จะมอบให้นั้นจะต้องมีมูลค่ามากกว่าของขวัญที่ได้รับ 2-3 เท่ากันเลยทีเดียวสำหรับประเทศเกาหลีใต้ นอกจากจะมีวันไวท์เดย์แล้ว ก็ยังมีวัน "Black Day" อีกด้วย ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี จะเป็นวันที่คนโสดที่ไม่ได้รับของขวัญในวันวาเลนไทน์หรือวันไวท์เดย์ จะมารวมตัวกันและกิน "จาจังมยอน" (บะหมี่ซอสดำ) เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลที่มีกิจกรรมที่น่าสนใจ และเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันความเป็นมาของ วันไวท์เดย์ (White Day)ย้อนกลับไปในปี 1977 บริษัทขนม Ishimura Manseido ในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ริเริ่มแคมเปญที่ชื่อว่า "Marshmallow Day" เพื่อกระตุ้นยอดขายขนมหวาน โดยมีแนวคิดว่า ผู้ชายควรตอบแทนของขวัญที่ได้รับจากผู้หญิงในวันวาเลนไทน์จากแคมเปญนี้ มาร์ชเมลโล่กลายเป็นของขวัญยอดนิยมในวันตอบแทนความรัก และทำให้เกิดกระแสในวงกว้าง ต่อมาสมาคมอุตสาหกรรมขนมหวานของญี่ปุ่น เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและทำให้ "Marshmallow Day" กลายเป็น "White Day" อย่างเป็นทางการในปี 1978เหตุผลที่ใช้คำว่า "White" (สีขาว) มาจากความหมายเชิงสัญลักษณ์ของสีขาวที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ความซื่อสัตย์ในความรักการเริ่มต้นใหม่ที่บริสุทธิ์หลังจากนั้น บริษัทลูกอมและขนมอื่น ๆ เช่น Morinaga และ Fujiya ได้เข้าร่วมโปรโมตวันไวท์เดย์โดยเสนอให้ผู้ชายตอบแทนของขวัญด้วย ลูกกวาด ช็อกโกแลตขาว และคุกกี้ จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ญี่ปุ่น ไวท์เดย์ได้แพร่กระจายไปยังเกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน และกลายเป็นวันสำคัญที่ผู้คนเฉลิมฉลองความรักและความสัมพันธ์ที่ดีจนถึงทุกวันนี้วัฒนธรรม และกิจกรรมในวันไวท์เดย์แม้ว่าจะเริ่มต้นจากแผนการตลาด วันไวท์เดย์ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมความรัก โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งมีธรรมเนียมที่แตกต่างจากวันวาเลนไทน์ของโลกตะวันตก มาดูกันว่าในวันไวท์เดย์ มีวัฒนธรรมและกิจกรรมอะไรกันบ้าง1. "กฎของไวท์เดย์" ของขวัญต้องแพงกว่าเดิม!ในญี่ปุ่นมีแนวคิดว่า ของขวัญที่ผู้ชายตอบแทนต้องมีมูลค่ามากกว่าของขวัญที่ได้รับ 2-3 เท่า เพื่อแสดงถึงความใส่ใจและความจริงจังในความสัมพันธ์2. ประเภทของของขวัญ และความหมายแฝงของขวัญที่นิยมมอบให้กันในวันไวท์เดย์มักมี ความหมายที่ซ่อนอยู่ เช่นไวท์ช็อกโกแลตความรักที่บริสุทธิ์และจริงใจมาร์ชเมลโล่ ความรักที่อ่อนหวานและลึกซึ้งลูกกวาด ความรักที่หวานชื่นคุกกี้ ความสัมพันธ์ที่เป็นมิตร (Friendzone)เครื่องประดับ ความสัมพันธ์ที่จริงจังและมั่นคงดอกไม้ การแสดงออกถึงความโรแมนติกและขอบคุณอย่างไรก็ตาม มีของขวัญบางอย่างที่ไม่ควรมอบให้กัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า (สื่อถึงการลาจาก) หรือกระเป๋าสตางค์ (สื่อถึงความห่างเหินในเรื่องเงินทอง) ซึ่งจะมีความเชื่อคล้ายกับประเทศไทยเราในการมอบของขวัญเช่นกันทำไมวันไวท์เดย์ถึงเป็นมากกว่าวันตอบแทนความรัก?วันไวท์เดย์ (White Day) ไม่ใช่แค่วันที่ผู้ชายมอบของขวัญตอบแทนให้กับผู้หญิงหลังวันวาเลนไทน์ แต่เป็นวันที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการให้และรับความใส่ใจ และการแสดงความรู้สึกในความสัมพันธ์ ในหลายประเทศแถบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนความสำคัญของวันไวท์เดย์ไม่ได้อยู่ที่ของขวัญราคาแพง แต่เป็นความหมายที่แฝงอยู่ในแต่ละของขวัญที่มอบให้ เช่น ไวท์ช็อกโกแลต หมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์ หรือ ลูกกวาด หมายถึง "ฉันชอบคุณ" ในขณะที่บางของขวัญอาจมีความหมายเชิงปฏิเสธ เช่น คุกกี้ ที่หมายถึง "เราเป็นแค่เพื่อนกัน"นอกจากนี้ วันไวท์เดย์ยังเป็นโอกาสที่ คู่รักจะได้กระชับความสัมพันธ์ และสำหรับบางคน อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญในการสารภาพรัก หรือสร้างความทรงจำที่พิเศษร่วมกัน ดังนั้น วันไวท์เดย์จึงไม่ได้เป็นเพียง วันตอบแทนของขวัญ เท่านั้น แต่ยังเป็น วันที่เต็มไปด้วยความหมาย และสะท้อนวัฒนธรรมแห่งความรักและความใส่ใจ ที่แตกต่างจากวันวาเลนไทน์อีกด้วย20 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวันไวท์เดย์ (White Day) พร้อมคำอ่านและความหมายคำศัพท์ (Vocabulary)คำอ่าน (Reading)ความหมาย (Meaning)White Day(ไวท์ เดย์)วันไวท์เดย์ (14 มีนาคม)Valentine’s Day(วาเลนไทน์ เดย์)วันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์)Gift exchange(กิฟท์ เอ็กซ์เชนจ์)การแลกของขวัญReciprocation(รีซิพโระเคชัน)การตอบแทนChocolate(ช็อกโกแลต)ช็อกโกแลตMarshmallow(มาร์ชเมลโล่)มาร์ชเมลโล่Candy(แคนดี้)ลูกกวาด หรือขนมหวานCookies(คุกกี้ส์)คุกกี้Sweets(สวีทส์)ขนมหวานGift box(กิฟท์ บ็อกซ์)กล่องของขวัญJewelry(จูเวลรี่)เครื่องประดับNecklace(เนคเลซ)สร้อยคอBracelet(เบรซเลท)กำไลข้อมือPerfume(เพอร์ฟูม)น้ำหอมAffection(แอฟเฟคชัน)ความรักและเอาใจใส่Sweetheart(สวีทฮาร์ท)คนรัก หรือคนพิเศษSoulmate(โซลเมท)คู่แท้Crush(ครัช)คนที่แอบชอบLove confession(เลิฟ คอนเฟสชัน)การสารภาพรักSpecial occasion(สเปเชียล ออเคชั่น)โอกาสพิเศษวันไวท์เดย์ มากกว่าของขวัญ คือความหมายที่ซ่อนอยู่ในทุกคำตอบแทนอย่างที่ทราบดีว่า วันไวท์เดย์ ไม่ได้เป็นแค่วันที่ให้ของขวัญ แต่เป็นวันที่เต็มไปด้วยความหมาย ความรัก ความใส่ใจ และการตอบแทนความรู้สึก ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ให้หรือผู้รับ ของขวัญแต่ละชิ้นมีเรื่องราวซ่อนอยู่ และสามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งขึ้น หรืออาจทำให้หัวใจเต้นแรงด้วยเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ หวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณได้รู้จักมากขึ้นว่า วันไวท์เดย์ คือวันอะไร มีความสำคัญอย่างไร และมีวัฒนธรรมหรือกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจบ้างละคุณล่ะ? พร้อมตอบแทนความรู้สึกของใครสักคนในวันไวท์เดย์นี้แล้วหรือยัง?