คำสแลงคืออะไร? รู้จักคำศัพท์ที่ไม่มีในพจนานุกรมกันเถอะ

คำสแลงคืออะไร? เกิดขึ้นได้อย่างไร

คำสแลงคือคำหรือวลีที่ผู้คนสร้างขึ้นเพื่อสื่อความหมายในลักษณะที่แตกต่างไปจากภาษาแบบทางการ เป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และอารมณ์ของกลุ่มผู้ใช้ในสถานการณ์เฉพาะ คำสแลงมักเกิดจากความต้องการในการสื่อสารที่รวดเร็ว สนุกสนาน หรือให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับกลุ่มสังคม คำเหล่านี้อาจมาจากการย่อคำ การเล่นคำ การผสมคำเดิมให้เกิดความหมายใหม่ หรือแม้กระทั่งการนำคำจากภาษาอื่นมาปรับใช้ในบริบทใหม่ ๆ

การแพร่หลายของคำสแลงส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านสื่อโซเชียล การพูดคุยในกลุ่มเพื่อน เช่น กลุ่มเพลง กลุ่มภาพยนตร์ หรือเกม คำสแลงจึงเป็นสิ่งที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของสังคมในแต่ละช่วงเวลา แม้ว่าจะไม่มีปรากฏในพจนานุกรมแต่ก็มีผู้คนใช้กันอย่างแพร่หลายจนเป็นที่รู้จักตามยุคสมัย สังเกตได้ว่าในโซเชียลมีเดียจะมีวัยรุ่นพูดศัพท์ใหม่ ๆ ที่เราไม่รู้จักอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นการเรียนรู้คำศัพท์ที่ไม่มีในพจนานุกรมเหล่านั้น ก็จะช่วยให้คุณแปลงานออกมาได้ถูกจริตคนยุคใหม่ได้ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ว่าไม่ควรใช้คำสแลงในเอกสารทางการโดยเด็ดขาด เลี่ยงได้เป็นดีที่สุด เหมาะสำหรับการแปลข้อความแชตเสียมากกว่า

ประเภทของคำสแลงหรือที่มาของคำสแลง

คำสแลงเป็นส่วนหนึ่งของภาษาที่มีความยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ มักถูกใช้ในบริบทที่ไม่เป็นทางการ โดยการแบ่งประเภทของคำสแลงช่วยให้เข้าใจลักษณะและที่มาของคำเหล่านี้ได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นหลายประเภท ดังนี้

1. มาจากการย่อคำ

คำสแลงประเภทนี้เกิดจากการย่อคำหรือวลีที่ยาวให้สั้นลงเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการสื่อสาร เช่น “OMG” (Oh My God) หรือ “555” ที่เป็นคำสแลงของคนไทย แทนเสียงหัวเราะ แทนที่จะพิมพ์คำว่า ฮ่า ๆ ก็ใช้ตัวเลขแทนเสียเลยซึ่งง่ายกว่ามาก คำย่อเหล่านี้มักพบในข้อความสั้นหรือการสนทนาออนไลน์

2. การดัดแปลงจากคำเดิม

คำสแลงบางคำเกิดจากการปรับเปลี่ยนคำในภาษาเดิมเพื่อสร้างความหมายใหม่ เช่น การเปลี่ยนเสียงหรือการเติมคำให้มีความแปลกใหม่ แต่ถูกนำมาใช้ในความหมายว่าดีหรือโดดเด่น

3. คำที่มาจากสังคม

คำสแลงที่มาจากค่านิยม หรือเหตุการณ์ในสังคม เช่น คำที่มาจากภาพยนตร์ ซีรีส์ ละคร หรือเพลงยอดนิยม จะมีคำสแลงเกิดขึ้นใหม่ ๆทุกครั้ง

4. เกิดจากการยืมภาษาต่างประเทศ

คำสแลงประเภทนี้เกิดจากการนำคำหรือวลีจากภาษาต่างประเทศมาใช้ และปรับเปลี่ยนความหมายหรือการออกเสียงให้เหมาะสมกับการใช้งาน

5. การสร้างคำใหม่

คำสแลงประเภทนี้เป็นคำที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดและไม่ได้อิงจากคำเดิมในภาษา เช่น “โบ๊ะบ๊ะ” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่ตลกหรือสนุกสนาน คำเหล่านี้มักเกิดจากการเล่นคำและสร้างความสนุกในกลุ่มผู้ใช้

6. คำสแลงเฉพาะกลุ่ม

บางครั้งคำสแลงถูกใช้เฉพาะในกลุ่มวิชาชีพหรือกลุ่มความสนใจ เช่น คำสแลงในวงการไอที คำว่า “บั๊ก” (Bug) ที่หมายถึงปัญหาหรือข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ หรือคำในวงการเกม เช่น “เทพ” ที่หมายถึงผู้เล่นที่มีทักษะสูง

วิธีการค้นหาความหมายของคำสแลง

คำสแลงเป็นคำศัพท์ที่ไม่มีในพจนานุกรมแบบทางการ เนื่องจากคำเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของผู้ใช้ภาษาและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และคนนำไปใช้ หากพบคำสแลงหรือคำศัพท์ที่ไม่มีในพจนานุกรม แต่ต้องการทราบความหมาย สามารถค้นหาความหมายของคำเหล่านี้ได้จากแหล่งข้อมูลดังนี้

เว็บไซต์เฉพาะด้าน

หาคำสแลงภาษาอังกฤษได้จากเว็บไซต์ Urban Dictionary ที่เป็นแหล่งรวบรวมคำสแลงและคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ผู้ใช้ภาษาเพิ่มข้อมูลเอง เว็บไซต์เหล่านี้มักให้คำจำกัดความ ตัวอย่างการใช้งาน และความหมายที่หลากหลายจากมุมมองของผู้ใช้จริง

โซเชียลมีเดียและฟอรัมออนไลน์

โซเชียลมีเดีย เช่น Twitter, TikTok, หรือ Instagram เป็นแหล่งรวมคำสแลงที่เกิดขึ้นและแพร่หลายอย่างรวดเร็ว โดยค้นหาผ่านแฮชแท็กหรือโพสต์ที่มีการใช้คำดังกล่าวช่วยให้เข้าใจบริบทและความหมายของคำได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ฟอรัมออนไลน์ เช่น Reddit หรือ Pantip ก็เป็นอีกแหล่งข้อมูลที่ดีในการค้นหาความหมายของคำสแลงเช่นกัน

กลุ่มชุมชนออนไลน์

การเข้าร่วมกลุ่มเฉพาะด้าน เช่น กลุ่มเกี่ยวกับภาษา กลุ่มไอที หรือชุมชนที่ใช้คำสแลงบ่อย ๆ ช่วยให้เราถามและเรียนรู้ความหมายของคำจากผู้ใช้ได้

จากบริบทในสื่อและบทความ

คำสแลงที่ปรากฏในบทสนทนา ภาพยนตร์ เพลง หรือบทความ ที่เราสามารถคาดเดาความหมายได้จากการแสดง อารมณ์ของตัวละคร หรือความหมายที่ต้องการสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นอย่างไร

วิธีการนำคำสแลงมาใช้ในชีวิตประจำวัน

คำสแลงเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่ช่วยเพิ่มสีสันและสร้างความใกล้ชิดในบทสนทนา แต่การใช้คำสแลงอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความไม่พอใจได้ ดังนั้นการเลือกใช้คำสแลงจึงต้องคำนึงถึงบริบท ผู้ฟัง และความเหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ สำหรับแนวทางในการใช้คำสแลงอย่างถูกต้องและเหมาะสมมีดังนี้

ควรใช้ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ

คำสแลงเหมาะสำหรับการสนทนาในบริบทที่ไม่เป็นทางการ เช่น การพูดคุยกับเพื่อน คนในครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่สนิท การใช้คำสแลงในสถานการณ์เหล่านี้ช่วยให้บทสนทนาดูเป็นกันเองและสนุกสนานมากขึ้น

พิจารณาผู้ฟัง

การเลือกใช้คำสแลงต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผู้ฟัง หากเป็นเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ชิด การใช้คำสแลงช่วยสร้างความสนุกสนานได้ แต่หากผู้ฟังเป็นผู้ใหญ่หรือบุคคลที่ไม่คุ้นเคยกับคำสแลง คำเหล่านี้อาจทำให้เกิดความสับสนหรือรู้สึกไม่เหมาะสมได้เช่นกัน

ใช้คำสแลงที่ฟังเข้าใจง่าย

คำสแลงบางคำอาจเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น ดังนั้นแล้วการเลือกคำที่ผู้ฟังรู้จักช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเครียดในการพูดคุย

ศึกษาความหมายของคำสแลง

คำสแลงบางคำอาจมีความหมายที่แตกต่างกัน การใช้คำสแลงในบริบทที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความไม่พอใจ ดังนั้นควรศึกษาความหมายและการใช้คำเหล่านั้นให้ดีก่อนนำไปใช้

หลีกเลี่ยงการใช้ในเอกสารทางการ

คำสแลงไม่เหมาะสำหรับการใช้ในเอกสารทางการ เช่น รายงาน อีเมลธุรกิจ หรือการนำเสนอในงานสำคัญ เป็นต้น เพราะการใช้คำสแลงในเอกสารทางการอาจลดความน่าเชื่อถือและทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ

ดังนั้น การใช้คำสแลงให้ถูกต้องและเหมาะสมจึงต้องพิจารณาทั้งบริบท ผู้ฟัง และสถานการณ์ ณ ตอนนั้น หากใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม คำสแลงจะช่วยเพิ่มความเป็นกันเอง ลดความเครียด และเพิ่มสีสันในบทสนทนา แต่หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือความไม่พอใจได้

ตัวอย่างคำสแลง

คำสแลงที่จะยกมาเป็นตัวอย่างเหล่านี้สะท้อนถึงความสนุกสนานและการใช้ภาษาที่ทันสมัย และควรใช้ในบริบทที่เหมาะสมเพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างเข้าใจและไม่ทำให้เกิดความสับสนเท่านั้น ขอยกตัวอย่างคำสแลงภาษาอังกฤษ 10 คำดังนี้

1. GOAT ย่อมาจาก Greatest Of All Time
   ความหมายคือ ที่สุดของที่สุด ใช้เวลาชมคนที่ทำอะไรได้ดีเยี่ยม โดดเด่นกว่าผู้อื่น
2. Lit ความหมายคือ สุดยอด สนุกมาก
3. Bae ความหมายคือ ที่รัก แฟน (มักใช้เรียกคนรัก)
4. Flex ความหมายคือ โอ้อวด อวดรวย อวดเก่ง อวดรู้
5. Salty ความหมายคือ อารมณ์เสีย หงุดหงิด โกรธ โมโห
6. Slay ความหมายคือ ทำได้ยอดเยี่ยม ทำได้ดีมาก (มักใช้ชมเวลาคนที่ทำอะไรโดดเด่น )
7. Throw shade ความหมายคือ วิจารณ์ แซะ
8. Low-key ความหมายคือ เงียบๆ สบายๆ ไม่ต้องหวือหวา
9. Gucci มาจากแบรนด์ Gucci ที่มีความหมายในเชิงบวก
   ความหมายคือ เจ๋ง เริ่ด ดูดี เท่
10. NBD มาจากคำว่า No big deal
    ความหมายคือ ไม่มีปัญหา เรื่องเล็กน้อย

คำสแลงเป็นภาษาที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ใช้เพื่อเพิ่มสีสันและเพิ่มความใกล้ชิดในบทสนทนา การใช้คำสแลงจึงไม่เหมาะกับเอกสารทางการ หรือในสถานการณ์ทางการ หากพบคำศัพท์ที่ไม่มีในพจนานุกรม หรือ คำสแลง ในงานแปล แนะนำให้ดูเนื้อหาของงานทั้งหมดก่อน เพื่อเช็คคำศัพท์นั้นว่ามีความหมายในพจนานุกรมหรือไม่ หรือเป็นคำสแลง ทั้งนี้ นักแปลควรศึกษาความหมายของคำสแลงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และคำนึงถึงความเข้าใจของผู้อ่าน เพื่อให้การแปลมีความถูกต้อง สื่ออารมณ์ได้ครบถ้วน และยังคงความหมายของเนื้อหาไว้เหมือนเดิม