เคล็ดลับพิชิตข้อสอบ TOEIC Listening & Reading Test

เคล็ดลับพิชิตข้อสอบ TOEIC Listening & Reading Test

การสอบ TOEIC Listening & Reading Test เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในบริบทการทำงานระหว่างประเทศ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหางานในองค์กรข้ามชาติ หรือพนักงานที่ต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อเลื่อนตำแหน่ง

การได้คะแนนสูงในการสอบ TOEIC ถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นและสร้างโอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงาน เพื่อช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการสอบนี้ บทความนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำข้อสอบ TOEIC Listening & Reading เพื่อให้คุณสามารถทำคะแนนได้สูงตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

การสอบ TOEIC Listening & Reading คืออะไร?

จริง ๆ แล้วการสอบ TOEIC นั้นมี 2 รูปแบบ คือ Listening & Reading และในส่วนของ Speaking & Writing ซึ่งการสอบ TOEIC Listening & Reading เป็นการทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและธุรกิจระหว่างประเทศ การสอบนี้พัฒนาและดูแลโดย Educational Testing Service (ETS) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงในการจัดทำข้อสอบมาตรฐานระดับสากล

และปัจจุบันนี้การสอบ TOEIC Listening & Reading ก็เป็นที่นิยมมากกว่ารูปแบบ Speaking & Writing ดังนั้นบทความนี้เรามาทำความเข้าใจและรู้จักการสอบ TOEIC Listening & Reading กันเลย

ข้อสอบ TOEIC Listening

1. ข้อสอบ TOEIC Listening

ข้อสอบ TOEIC Listening ประกอบด้วย 100 ข้อ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 พาร์ต โดยแต่ละพาร์ตจะมีลักษณะคำถามและรูปแบบการฟังที่แตกต่างกันไป ผู้สอบจะได้ฟังบทสนทนา ข้อความ หรือคำพูดในหัวข้อต่าง ๆ และตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง

Part 1 Photographs

  • จำนวนคำถาม: 6 ข้อ
  • ลักษณะคำถาม: ผู้สอบจะเห็นภาพ 1 ภาพ และได้ยินคำอธิบาย 4 ประโยคเกี่ยวกับภาพนั้น ๆ (A, B, C, D)
  • สิ่งที่ต้องทำ: เลือกคำอธิบายที่ตรงกับภาพมากที่สุด
  • ตัวอย่าง: ภาพอาจจะแสดงถึงสถานการณ์ในที่ทำงาน เช่น ผู้คนกำลังพูดคุยกัน หรือกำลังทำงานบางอย่าง
ตัวอย่างข้อสอบ TOEIC Part 1 Photographs

ตัวอย่างข้อสอบ Part 1 จะมีภาพปรากฏขึ้นมา พร้อมเสียงคำอธิบาย 4 ตัวเลือก ซึ่งคุณจะต้องตั้งใจฟังและตอบให้ตรงกับภาพ

  • A. The woman is sitting at a desk.
  • B. The man is walking down the street. (คำตอบที่ถูกต้อง)
  • C. The building is under construction.
  • D. The car is parked near the sidewalk.

Part 2 Question-Response

  • จำนวนคำถาม: 25 ข้อ
  • ลักษณะคำถาม: ผู้สอบจะได้ยินคำถามหรือประโยคคำพูดสั้น ๆ และมีตัวเลือกคำตอบ 3 คำตอบ (A, B, C)
  • สิ่งที่ต้องทำ: เลือกคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคำถามหรือประโยคนั้น

ตัวอย่างข้อสอบ Part 2Question: "Where is the nearest train station?"

  • A. About five minutes from here. (คำตอบที่ถูกต้อง)
  • Yes, I like trains.
  • C. It opens at 9 a.m.

เคล็ดลับในพาร์ตนี้ ผู้สอบต้องฟังอย่างระมัดระวัง เนื่องจากคำตอบที่ถูกต้องอาจไม่ได้ตรงกับคำถามโดยตรงเสมอไป ต้องเลือกคำตอบที่มีความสมเหตุสมผล

Part 3 Conversations

  • จำนวนคำถาม: 39 ข้อ (บทสนทนา 13 บท)
  • ลักษณะคำถาม: ผู้สอบจะได้ยินบทสนทนา 2-3 คนคุยกัน โดยแต่ละบทสนทนาจะมี 3 คำถาม
  • สิ่งที่ต้องทำ: เลือกคำตอบจากตัวเลือกที่มีให้ (A, B, C, D) ซึ่งคำถามจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พูดในบทสนทนา

ตัวอย่างข้อสอบ Part 3คุณกำลังฟังบทสนทนาระหว่างผู้จัดการและพนักงานเกี่ยวกับโครงการ

  • Question: "What will the woman do next?"
  • A. Submit the report. (คำตอบที่ถูกต้อง)
  • B. Call a client.
  • C. Reschedule the meeting.
  • D. Review the budget.

Part 4 Short Talks

  • จำนวนคำถาม: 30 ข้อ
  • ลักษณะคำถาม: ผู้สอบจะได้ยินการพูด เช่น การประกาศ การบรรยาย หรือการรายงานข่าว โดยแต่ละบทพูดจะมี 3 คำถาม
  • สิ่งที่ต้องทำ: เลือกคำตอบจากตัวเลือกที่มีให้ (A, B, C, D)

ตัวอย่างข้อสอบ Part 4คุณกำลังฟังการประกาศจากผู้จัดการร้านที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเวลาเปิดร้าน

  • Question: "What time will the store close on Fridays?"
  • A. At 6 p.m.
  • B. At 8 p.m. (คำตอบที่ถูกต้อง)
  • C. At 9 p.m.
  • D. At 10 p.m.

เกณฑ์การให้คะแนนในส่วน TOEIC Listening

คะแนนสำหรับการสอบในส่วนการฟังจะอยู่ระหว่าง 5 - 495 คะแนน โดยระบบการให้คะแนนจะขึ้นอยู่กับจำนวนคำตอบที่ถูกต้องจากทั้ง 100 คำถาม จากนั้น ETS จะนำคำตอบไปแปลงเป็นคะแนนมาตรฐานซึ่งทำให้คะแนนแต่ละคนเทียบเคียงกันได้แม้จะทำข้อสอบต่างชุดกัน

เคล็ดลับในการเตรียมตัวสำหรับ TOEIC Listening

เพื่อให้การสอบในส่วนของพาร์ต Listening เรามีเคล็ดลับในการเตรียมสอบเพื่อให้ได้คะแนนเยอะ ๆ ดังนี้

  1. ฝึกฟังภาษาอังกฤษในหลากหลายสำเนียง ข้อสอบ TOEIC ใช้สำเนียงอังกฤษหลายแบบ เช่น สำเนียงอเมริกัน อังกฤษ ออสเตรเลีย และแคนาดา ดังนั้นการฝึกฟังสำเนียงที่หลากหลายจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
  2. ฝึกทำข้อสอบจริง การฝึกทำข้อสอบจำลองจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบคำถามและสามารถตอบได้ทันเวลาจริง
  3. เน้นการฟังในรายละเอียด ข้อสอบบางคำถามต้องการให้คุณฟังและจับใจความสำคัญในบทสนทนาหรือการพูด ซึ่งคุณต้องฝึกการจับใจความและฟังในส่วนสำคัญอย่างรวดเร็ว
  4. ฝึกจับประเด็นจากการฟังข้อมูลที่มากกว่าแค่คำตอบตรง ๆ บางคำถามจะต้องการให้คุณเข้าใจความหมายโดยนัยของสิ่งที่พูด ซึ่งต้องการการฝึกฝนทักษะการฟังอย่างลึกซึ้ง
ข้อสอบ TOEIC Reading

2. ข้อสอบ TOEIC Reading

ข้อสอบ TOEIC Reading ประกอบด้วย 3 พาร์ต ซึ่งแต่ละพาร์ตจะมีรูปแบบและลักษณะคำถามที่แตกต่างกันไป ดังนี้

Part 5 Incomplete Sentences

  • จำนวนคำถาม: 30 ข้อ
  • ลักษณะคำถาม: ผู้สอบจะได้เห็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะมีช่องว่างอยู่ในบางตำแหน่ง จากนั้นจะมีตัวเลือกให้เลือก 4 ตัวเลือก (A, B, C, D)
  • สิ่งที่ต้องทำ: เลือกคำที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเติมลงในช่องว่างนั้น ๆ
  • ขอบเขตที่ทดสอบ: ทดสอบความรู้ด้านไวยากรณ์ (grammar) และคำศัพท์ (vocabulary) เช่น การเลือกคำประเภทคำ (part of speech) ที่ถูกต้อง การใช้กริยา (verb) และคำนาม (noun) อย่างถูกต้อง รวมถึงการใช้คำที่เหมาะสมกับความหมายในประโยค

ตัวอย่างข้อสอบ Part 5The manager is ______ for reviewing the report.

  • A. responsibility
  • B. responsible (คำตอบที่ถูกต้อง)
  • C. responsibly
  • D. responsive

ในตัวอย่างนี้ คำตอบที่ถูกต้องคือ "responsible" เพราะเป็นคำคุณศัพท์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งในประโยค

Part 6 Text Completion

  • จำนวนคำถาม: 16 ข้อ (บทความ 4 บทความ โดยแต่ละบทความมี 4 คำถาม)
  • ลักษณะคำถาม: ผู้สอบจะได้เห็นข้อความหรือบทความที่มีช่องว่างในบางตำแหน่ง เช่น จดหมาย อีเมล หรือบทความ ซึ่งจะต้องเลือกคำที่เหมาะสมที่สุดจากตัวเลือก (A, B, C, D) มาเติมในช่องว่างเหล่านั้น
  • สิ่งที่ต้องทำ: เลือกคำที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้บทความสมบูรณ์ ซึ่งในส่วนนี้จะทดสอบทั้งการใช้คำศัพท์ (vocabulary) และไวยากรณ์ (grammar) ในบริบทที่กว้างขึ้น รวมถึงการเข้าใจเนื้อหาของบทความ

ตัวอย่างข้อสอบ Part 6Dear Ms. Lin, I am writing to ______ you that your order has been shipped.

  • A. inform (คำตอบที่ถูกต้อง)
  • B. inquire
  • C. provide
  • D. apply

ในตัวอย่างนี้ คำตอบที่ถูกต้องคือ "inform" เพราะเป็นคำกริยาที่เหมาะสมในบริบทของการแจ้งข่าวสาร

Part 7 Reading Comprehension

  • จำนวนคำถาม: 54 ข้อ (ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ การอ่านข้อความเดี่ยว และการอ่านข้อความคู่หรือหลายบทความ)
  • ลักษณะคำถาม: ผู้สอบจะได้อ่านเนื้อหาหรือข้อความประเภทต่าง ๆ เช่น บทความจากนิตยสาร, อีเมล, โฆษณา, ประกาศข่าว, รายงาน หรือการสนทนา จากนั้นตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเหล่านั้น โดยจะมีทั้งข้อความเดี่ยวและข้อความคู่ (ซึ่งต้องการให้ผู้สอบอ่านเนื้อหาหลายบทความหรือหลายข้อความแล้วตอบคำถาม)
  • สิ่งที่ต้องทำ: ตอบคำถามจากตัวเลือก (A, B, C, D) โดยอิงจากข้อมูลที่ได้อ่านจากบทความหรือข้อความ

ตัวอย่างข้อสอบ Part 7บทความอธิบายถึงข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าสำหรับลูกค้าครั้งแรก โดยระบุว่าลูกค้าจะได้รับส่วนลด 20% ในการซื้อสินค้าครั้งแรก

  • Question: "What benefit is offered to first-time customers?"
  • A. Free delivery.
  • B. A 20% discount. (คำตอบที่ถูกต้อง)
  • C. A free gift.
  • D. A membership card.

ในตัวอย่างนี้ คำตอบที่ถูกต้องคือ "A 20% discount" เพราะข้อมูลนี้ระบุไว้อย่างชัดเจนในบทความ

การอ่านข้อความเดี่ยว (Single Passages)

  • ในส่วนนี้ผู้สอบจะได้อ่านบทความสั้น ๆ หรือยาว ๆ เพียงบทเดียว จากนั้นตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลที่มีในบทความนั้น
  • ตัวอย่างข้อความที่ต้องอ่าน: อีเมล โฆษณา ข่าวสั้น รายงานผลการดำเนินงาน ฯลฯ

การอ่านข้อความคู่หรือหลายบทความ (Double Passages หรือ Multiple Passages)

  • ในส่วนนี้ผู้สอบจะได้อ่านเนื้อหาที่เป็นชุดข้อความคู่หรือหลายบทความ ซึ่งมักจะเป็นบทสนทนาหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกัน เช่น การอ่านอีเมลตอบกลับกัน หรือการอ่านรายงานและประกาศที่เกี่ยวข้อง
  • ตัวอย่าง: คุณอาจได้อ่านอีเมลจากผู้จัดการถึงลูกค้า และคำตอบจากลูกค้า แล้วต้องตอบคำถามจากข้อมูลทั้งสองบทความ

เกณฑ์การให้คะแนนในส่วน TOEIC Reading

คะแนนในส่วน TOEIC Reading อยู่ระหว่าง 5 - 495 คะแนน โดยระบบการให้คะแนนจะคำนวณจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้องจากทั้ง 100 คำถาม หลังจากนั้น ETS จะนำคำตอบไปแปลงเป็นคะแนนมาตรฐาน ซึ่งทำให้ผู้สอบแต่ละคนได้รับคะแนนที่เทียบเคียงกันได้ แม้จะทำข้อสอบต่างชุดกัน

เคล็ดลับในการเตรียมตัวสำหรับ TOEIC Reading

เพื่อให้การสอบในส่วนของพาร์ต Reading เรามีเคล็ดลับในการเตรียมสอบเพื่อให้ได้คะแนนเยอะ ๆ ดังนี้

  1. ฝึกทำข้อสอบบ่อย ๆการทำข้อสอบจำลองหรือแบบฝึกหัด TOEIC Reading บ่อย ๆ จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบของข้อสอบและปรับตัวกับการตอบคำถามในเวลาที่จำกัด
  2. เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์เพิ่มเติมTOEIC Reading ต้องการความเข้าใจในคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและธุรกิจ รวมถึงการใช้ไวยากรณ์ในบริบทต่าง ๆ ดังนั้นการเรียนรู้คำศัพท์เพิ่มเติมและการทบทวนไวยากรณ์จะช่วยได้มาก
  3. พัฒนาทักษะการอ่านเร็วเนื่องจากข้อสอบมีจำนวนมาก การอ่านให้เร็วและมีประสิทธิภาพจึงเป็นทักษะสำคัญ ฝึกการอ่านเนื้อหาที่ยาวขึ้นในเวลาที่จำกัด เช่น อ่านบทความจากหนังสือพิมพ์หรือบทความออนไลน์ พร้อมกับจับเวลาไปด้วย เป็นต้น
  4. ระวังคำถามประเภทความหมายโดยนัยบางคำถามจะไม่สามารถหาคำตอบได้ตรง ๆ จากข้อความที่อ่าน ผู้สอบจำเป็นต้องตีความหมายจากบริบทหรือข้อมูลโดยรวม
ประโยชน์ของการสอบ TOEIC Listening & Reading

ประโยชน์ของการสอบ TOEIC Listening & Reading

การสอบ TOEIC Listening & Reading เป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั่วโลก โดยเฉพาะในองค์กรข้ามชาติและสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ซึ่งใช้คะแนน TOEIC เป็นเครื่องมือในการประเมินทักษะภาษาอังกฤษของผู้สมัครงาน พนักงาน หรือแม้กระทั่งนักศึกษา ผู้ที่ได้คะแนนสูงในการสอบนี้มักจะมีโอกาสที่ดีในด้านการทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

5 เคล็ดลับพิชิตข้อสอบ TOEIC Listening & Reading ให้ได้คะแนนสูง ๆ

การพิชิตข้อสอบ TOEIC Listening & Reading ให้ได้คะแนนสูงนั้นต้องอาศัยการเตรียมตัวที่ดีและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากการฝึกทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันแล้ว การรู้วิธีจัดการกับข้อสอบในระยะเวลาที่จำกัดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ต่อไปนี้เป็น เคล็ดลับพิชิตข้อสอบ TOEIC Listening & Reading เพิ่มโอกาสในการทำคะแนนสูง

  1. ฝึกการฟังสำเนียงที่หลากหลายข้อสอบ TOEIC Listening ใช้สำเนียงภาษาอังกฤษที่หลากหลาย (อเมริกัน, อังกฤษ, ออสเตรเลีย) ดังนั้นควรฝึกฟังจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น พอดแคสต์ ภาพยนตร์ หรือข่าว เพื่อเพิ่มความคุ้นเคยกับสำเนียงและสไตล์การพูดต่าง ๆ
  2. ฝึกทำข้อสอบให้บ่อยจนกว่าจะคุ้นเคยกับรูปแบบเนื่องจากการทำข้อสอบนั้นมีเวลาจำกัด จึงจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นการฝึกทำข้อสอบบ่อย ๆ จนคุ้นชินในแต่ละพาร์ตนั้นก็จะช่วยให้เราเตรียมตัวและเข้าใจรูปแบบของข้อสอบได้
  3. พัฒนาทักษะการอ่านเร็วและจับใจความสำคัญฝึกอ่านบทความหรือข่าวภาษาอังกฤษและพยายามจับใจความสำคัญโดยเร็ว วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถทำข้อสอบพาร์ตการอ่านได้เร็วขึ้นและลดโอกาสพลาดรายละเอียดสำคัญได้
  4. เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ที่ใช้บ่อยในข้อสอบข้อสอบ TOEIC เน้นคำศัพท์และโครงสร้างประโยคที่ใช้ในชีวิตการทำงาน ดังนั้นการทบทวนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและการใช้ไวยากรณ์ให้ถูกต้อง จะช่วยให้คุณตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ
  5. จัดการเวลาในการทำข้อสอบให้ดีในพาร์ตการอ่าน ควรจัดสรรเวลาให้เพียงพอกับทุกพาร์ต และหากเจอข้อสอบที่ยากควรข้ามไปทำข้อที่ง่ายก่อน เพื่อประหยัดเวลาและไม่ปล่อยข้อสอบว่าง

เทคนิคทั้ง 5 ข้อนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนสูงในการสอบ TOEIC หากคุณฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและมีการเตรียมตัวที่ดี ทางผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับผู้พิชิตข้อสอบทุกท่านให้ได้คะแนนตามที่หวัง

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับรายละเอียดและเคล็ดลับการสอบ TOEIC Listening & Reading Test ที่เราได้หยิบยกมานี้ แม้การสอบ TOEIC Listening & Reading Test อาจดูท้าทาย แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ถูกต้องและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนสูงได้อย่างแน่นอน การฟังภาษาอังกฤษจากแหล่งที่หลากหลาย การอ่านบทความที่เน้นการใช้ภาษาธุรกิจ และการฝึกทำข้อสอบจำลอง จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบคำถามและเพิ่มความมั่นใจในวันสอบ ขอเพียงแค่คุณมีแผนการเตรียมตัวที่ดีและมีความตั้งใจ คุณก็จะสามารถพิชิตคะแนนสูงในการสอบ TOEIC ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ

สั่งประเมินราคางานแปล ฟรี!

อัปโหลดเนื้อหา ● เลือกภาษาและบริการ ● กำหนดระยะเวลา ● รายละเอียดงานแปล ● เสร็จสิ้น

  1. อัปโหลดเนื้อหา
  2. เลือกภาษาและบริการ
  3. เลือกตัวเลือกการแปล
  4. เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติม
  5. เสร็จสิ้น
อัปโหลดต้นฉบับ
อัปโหลดไฟล์ หรือพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปลในระบบสั่งงาน
เลือกไฟล์งานที่ต้องการแปลภาษา รองรับไฟล์ทุกประเภท สามารถอัปโหลดได้มากกว่าหนึ่งไฟล์
อัปโหลดไฟล์ต้นฉบับ
การอัปโหลดไฟล์ หรือ แปลข้อความสั้น สามารถเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
อัปโหลดไฟล์เพิ่มเติม
คุณสามารถพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปล หรือทําการคัดลอกจากช่องทางอื่นๆ
ขั้นตอน 1 จาก 4
เลือกบริการและภาษา
เลือกประเภทบริการ ภาษาต้นทางและภาษาปลายทาง
บริการ *
ภาษาต้นทาง *
ภาษาปลายทาง*
ขั้นตอน 2 จาก 4
กำหนดระยะเวลา
ระยะเวลาในการเปิดเสนอราคาและระยะเวลาที่ต้องการงานแปล
ระยะเวลาเปิดเสนอราคา *
คุณต้องการงานแปลภายในกี่วัน
หลังยืนยันการชําระค่าบริการ

ขั้นตอน 3 จาก 4
ความต้องการเพิ่มเติม
แจ้งรายละเอียดหรือความต้องการอื่น ๆ เพิ่มเติมให้นักแปลทราบ
แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม
ขั้นตอน 4 จาก 4
กำลังดำเนินการ