การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง อัปเดต ปี 2567

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง อัปเดต ปี 2567

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความสามารถด้านภาษาของบุคคลในระดับต่าง ๆ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการเรียนต่อ การทำงาน หรือการพัฒนาทักษะภาษาเอง การสอบเหล่านี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในปี 2567 โดยมีการปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาตามความต้องการในปัจจุบัน ผู้เขียนจึงได้รวบรวมมาฝากกันว่ามี การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้าง และมีข้อแตกต่างกันอย่างไร

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ มีความสำคัญอย่างไร?

ตามที่กล่าวมาข้างต้นว่า การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษนั้น เป็นการประเมินความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งผลการวัดระดับนั้น สามารถนำไปยื่นขอทุน หรือศึกษาต่อมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน เพราะบางคณะจะมีเงื่อนไขว่าต้องมีคะแนนสอบเหล่านี้ด้วย เช่น คณะบริหารธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ในส่วนของภาคอินเตอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ยังนำไปยื่นสมัครงานทั้งในไทยและต่างประเทศ เพิ่มโอกาสในการทำงานได้อีกด้วย

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEIC IELTS TOEFL ต่างกันอย่างไร?

เมื่อเห็นถึงความสำคัญของการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษกันไปแล้ว ต่อมาเรามาดูการสอบ TOEIC / IELTS / TOEFL กันว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร และแต่ละรูปแบบนั้นมีจุดประสงค์ในเรื่องใดบ้าง ซึ่งการสอบทั้ง 3 รูปแบบนี้ ทุกคนคงจะรู้จักและคุ้นเคยกันอย่างดี เพราะในประเทศไทยของเราใช้การสอบเหล่านี้เป็นเกณฑ์พิจารณาตามจุดประสงค์ของการสอบแต่ละประเภท

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEIC

1. TOEIC (Test of English for International Communication)

TOEIC หรือ โทอิก เป็นการสอบที่เน้นการวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในเชิงธุรกิจ (Business English) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานในองค์กรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน ซึ่งการสอบ TOEIC นั้นมีการวัดระดับ 2 รูปแบบ คือ การฟังและการอ่าน (Listening & Reading) และ การพูดและการฟัง (Speaking & Writing)

รูปแบบการสอบ

  • TOEIC Listening and Reading: การสอบที่นิยมมากที่สุด ใช้สำหรับวัดทักษะการฟังและการอ่านในบริบทธุรกิจ
  • TOEIC Speaking and Writing: เป็นการสอบที่เพิ่มเข้ามาเพื่อวัดทักษะการพูดและการเขียน โดยแยกออกจากการสอบ Listening and Reading

จุดเด่น

  • TOEIC เน้นการทดสอบทักษะที่ใช้ในการสื่อสารในบริบทธุรกิจและการทำงาน
  • ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในองค์กรทั่วโลก และใช้ในการประเมินทักษะภาษาอังกฤษของพนักงาน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ TOEIC

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ IELTS

2. IELTS (International English Language Testing System)

IELTS หรือ ไอเอลส์ เป็นการสอบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ IELTS Academic สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และ IELTS General Training สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานหรือทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก การสอบ IELTS วัดความสามารถทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด

รูปแบบการสอบ

  • IELTS Academic: สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษ
  • IELTS General Training: สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ หรือใช้เพื่อการทำงานทั่วไป

จุดเด่น

  • การสอบ IELTS มีการทดสอบทั้งการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด ซึ่งให้ความสำคัญกับทุกทักษะอย่างสมดุล
  • ใช้สำหรับการศึกษาต่อ การเข้าทำงาน และการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเป็นการสอบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEFL

3. TOEFL (Test of English as a Foreign Language)

TOEFL หรือ โทเฟล เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่เน้นการประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ (Academic English) โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก การสอบ TOEFL มีทั้งแบบ iBT (Internet-Based Test) และ PBT (Paper-Based Test) ขึ้นอยู่กับสถานที่สอบ

รูปแบบการสอบ

  • TOEFL iBT (Internet-based Test): เป็นรูปแบบที่นิยมใช้มากที่สุด โดยการสอบจะทำผ่านคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
  • TOEFL PBT (Paper-based Test): เป็นรูปแบบการสอบแบบกระดาษ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานน้อยลง

จุดเด่น

  • TOEFL iBT เน้นการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมทางวิชาการ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย

เปรียบเทียบข้อแตกต่างการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEIC IELTS TOEFL

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน มาดูกันว่า การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEIC IELTS TOEFL มีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร ผู้เขียนจึงทำออกมาเป็นรูปแบบตารางเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ

TOEICIELTSTOEFL
วัตถุประสงค์สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครเข้าทำงานในองค์กรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อหรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
เนื้อหาที่ใช้ในการสอบ- การฟังและการอ่าน (Listening and Reading)
- การพูดและการเขียน (Speaking and Writing)
- การฟัง (Listening)
- การพูด (Speaking)
- การอ่าน (Reading)
- การเขียน (Writing)
- การฟัง (Listening)
- การพูด (Speaking)
- การอ่าน (Reading)
- การเขียน (Writing)
คะแนนสอบคะแนนรวม 990 คะแนนแบ่งออกเป็น 9 ระดับ ตั้งแต่ 0-9คะแนนรวม 120 คะแนน
เวลาในการสอบประมาณ 2 ชั่วโมงประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาทีประมาณ 3 ชั่วโมง
อายุการใช้งานคะแนน2 ปี2 ปี2 ปี
ราคาสอบประมาณ 1,800 - 5,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทที่เลือกสอบ)ประมาณ 7,300 - 7,500 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทที่เลือกสอบ)ประมาณ 7,500 - 8,000 บาท

ตารางนี้เป็นเพียงข้อมูลคร่าว ๆ เพื่อให้เห็นภาพข้อแตกต่างของ 3 ประเภทเท่านั้น เดี๋ยวผู้เขียนจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ แต่ละประเภทมาลงอย่างละเอียดอีกครั้ง ฝากติดตามด้วยนะคะ

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

นอกจากการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ 3 ประเภทที่ได้ยกมาข้างต้นแล้ว ยังมีประเภทอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งผู้เขียนจะหยิบยกมาในส่วนที่สามารถนำคะแนนสอบไปยื่นใช้จริง และเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานสากลนะคะ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ Cambridge English Exams

1. Cambridge English Exams

การสอบ Cambridge English เป็นชุดของการสอบที่ออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในระดับต่าง ๆ ตามมาตรฐาน CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) โดยการสอบนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากลและมีการใช้งานในหลายด้าน เช่น การศึกษาต่อ การสมัครงาน และการขอวีซ่า

เนื้อหาที่ใช้ในการสอบ

  • การฟัง (Listening): วัดความสามารถในการเข้าใจเนื้อหาที่ฟัง
  • การพูด (Speaking): วัดความสามารถในการพูดโต้ตอบในสถานการณ์ต่าง ๆ
  • การอ่าน (Reading): วัดความสามารถในการอ่านและเข้าใจเนื้อหาต่าง ๆ
  • การเขียน (Writing): วัดความสามารถในการเขียนเนื้อหาที่ถูกต้องและเหมาะสม

จุดเด่น

  • คะแนนจากการสอบ Cambridge English นั้น จะแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ตามมาตรฐาน CEFR ซึ่งจะระบุถึงระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบ
การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ PTE Academic

2. PTE Academic (Pearson Test of English Academic)

PTE Academic เป็นการสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงการยื่นขอวีซ่าบางประเภท โดยการสอบนี้เป็นแบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำคะแนนสอบไปใช้อย่างเร่งด่วน

เนื้อหาที่ใช้ในการสอบ

  • การพูดและการเขียน (Speaking & Writing): รวมทักษะการพูดและการเขียนไว้ในส่วนเดียวกัน ผู้สอบต้องตอบคำถามเชิงสนทนา อ่านออกเสียง และเขียนเรียงความ
  • การอ่าน (Reading): วัดความสามารถในการอ่านและเข้าใจเนื้อหาที่อ่าน รวมถึงการวิเคราะห์และสรุปความหมายของข้อความ
  • การฟัง (Listening): วัดความสามารถในการฟังและเข้าใจเนื้อหาที่ฟัง รวมถึงการระบุข้อมูลที่สำคัญ

จุดเด่น

  • ผลลัพธ์จะได้รับในเวลาอันรวดเร็ว (ปกติภายใน 48 ชั่วโมง)
  • การสอบเป็นแบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ทำให้มีความสะดวกและแม่นยำ
การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ DUOLINGO English Test

3. DUOLINGO English Test

หลาย ๆ คนคงจะรู้สึกคุ้นเคยกันดีในแอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษอย่าง Duolingo ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ DUOLINGO English Test เป็นที่ยอมรับในหลายมหาวิทยาลัยทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทยเองก็สามารถใช้คะแนนยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้เช่นกัน

เนื้อหาที่ใช้ในการสอบ

  • การทดสอบทักษะบูรณาการ (Integrated Skills): การสอบนี้จะไม่มีการแยกทักษะออกจากกันอย่างชัดเจน แต่จะทดสอบทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนในลักษณะที่บูรณาการเข้าด้วยกัน เช่น การพิมพ์คำที่ได้ยิน การตอบคำถามหลังจากการอ่าน หรือการอธิบายภาพ

จุดเด่น

  • สามารถทำการสอบได้จากที่บ้าน
  • ได้รับผลคะแนนภายใน 2 วันทำการ

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของบุคคลในบริบทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อ การสมัครงาน หรือการย้ายถิ่นฐาน แต่ละการสอบมีลักษณะและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนว่าจะนำไปใช้ในด้านใด หวังว่ารูปแบบการสอบที่ผู้เขียนได้หยิบยกมานี้ จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ

สั่งประเมินราคางานแปล ฟรี!

อัปโหลดเนื้อหา ● เลือกภาษาและบริการ ● กำหนดระยะเวลา ● รายละเอียดงานแปล ● เสร็จสิ้น

  1. อัปโหลดเนื้อหา
  2. เลือกภาษาและบริการ
  3. เลือกตัวเลือกการแปล
  4. เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติม
  5. เสร็จสิ้น
อัปโหลดต้นฉบับ
อัปโหลดไฟล์ หรือพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปลในระบบสั่งงาน
เลือกไฟล์งานที่ต้องการแปลภาษา รองรับไฟล์ทุกประเภท สามารถอัปโหลดได้มากกว่าหนึ่งไฟล์
อัปโหลดไฟล์ต้นฉบับ
การอัปโหลดไฟล์ หรือ แปลข้อความสั้น สามารถเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
อัปโหลดไฟล์เพิ่มเติม
คุณสามารถพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปล หรือทําการคัดลอกจากช่องทางอื่นๆ
ขั้นตอน 1 จาก 4
เลือกบริการและภาษา
เลือกประเภทบริการ ภาษาต้นทางและภาษาปลายทาง
บริการ *
ภาษาต้นทาง *
ภาษาปลายทาง*
ขั้นตอน 2 จาก 4
กำหนดระยะเวลา
ระยะเวลาในการเปิดเสนอราคาและระยะเวลาที่ต้องการงานแปล
ระยะเวลาเปิดเสนอราคา *
คุณต้องการงานแปลภายในกี่วัน
หลังยืนยันการชําระค่าบริการ

ขั้นตอน 3 จาก 4
ความต้องการเพิ่มเติม
แจ้งรายละเอียดหรือความต้องการอื่น ๆ เพิ่มเติมให้นักแปลทราบ
แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม
ขั้นตอน 4 จาก 4
กำลังดำเนินการ