เล่าประสบการณ์การเรียนภาษาญี่ปุ่น คันจิ ฮิรางานะ และ คะตาคานะ PASA24 6432 แชร์ เมื่อสิบปีก่อน ดิฉันมีโอกาสดีได้ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่น ภาษานี้เมื่อเปรียบเทียบกับภาษาไทย ดิฉันตอบไม่ได้ว่าภาษาใดยากกว่ากัน โดยประวัติศาสตร์แล้ว ภาษาญี่ปุ่น กำเนิดจากกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่อพยบออกมาจากจีนแล้วไปหาดินแดนตั้งรกรากใหม่ก็พอดีไปเจอบริเวณเกาะญี่ปุ่นนั่นเองสารบัญเนื้อหาพยัญชนะภาษาญี่ปุ่นมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ฮิรางานะ และคะตาคานะ คันจิ เสียง คันจิ การออกเสียง “อง” และเสียง “คุน” คันจิ ที่ออกเสียงซ้ำกัน การเขียน คันจิ สรุป พยัญชนะภาษาญี่ปุ่นมีกี่ประเภท อะไรบ้างภาษาญี่ปุ่นประกอบไปด้วยตัวพยัญชนะ 3 ชนิด คือ "ฮิรางานะ คะตาคานะ คันจิ"เดี๋ยวดิฉันจะแนะนำแต่ละพยัญชนะว่าแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากยิ่งขึ้นฮิรางานะ และคะตาคานะมีฐานวรรคต่าง ๆ เช่น วรรค อะ (あ) , วรรค คะ (か) , วรรค นะ (な) , วรรค ตะ (た) , วรรค สะ (さ) , วรรค ฮะ (は) , วรรค ปะ (ぱ) , วรรค ละ (ら) เป็นต้น คำต่าง ๆ ที่เขียนโดยอักษรฮิรางานะ จะค่อนข้างยาวตัวอย่างเช่นคำว่ายางลบ อ่านว่า เคชิโกมุ (けしごむ)อิจฉา อ่านว่า อุรายามะชี่ (うらやましい)ท้อง อ่านว่า โอนากะ (おなか)สวัสดีตอนเช้า อ่านว่า โอไฮโยโกะไซมัส (おはいよこさいます) ขอบคุณ อ่านว่า อะรอกาโต้โกะไซมัส (ありがとうごさいます)ส่วนคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ คนญี่ปุ่นมักเขียนด้วยอักษรที่มีชื่อว่า คะตาคานะ เช่น คำว่าโต๊ะ ภาษาอังกฤษอ่านว่า Table ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า テブル(เทบูรุ)ผู้จัดการ ภาษาอังกฤษอ่านว่า manager ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า メネジคันจิในคำที่มีความหมายเหมือนกันนั้น ภาษาญี่ปุ่นจะมีคำอีกประเภทหนึ่งคือ "คันจิ" ที่ทุกคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ยากแสนสาหัส อักษรคันจิเป็นอักษรภาพ เวลาจำต้องจำแบบรูปภาพตัวอย่างเช่นป่า ประกอบไปด้วยรูปต้นไม้ 3 ต้น (森) เรียงกันอ่านว่า โมริแม่น้ำ อ่านว่า คาวะ มีลักษณะเหมือนรูปภาพ เป็นเส้นลากจากบนลงล่างยาว ๆ 3 เส้น (川)หรือหนังสือทำมาจากกระดาษ มีลักษณะตัวอักษรคล้ายต้นไม้ แต่มีขีดที่โคนต้น อ่านว่า โฮ่ง (本)เสียง "คันจิ"การออกเสียง “อง” และเสียง “คุน”และตัวคันจิมีเสียงอ่านทั้งเสียง “อง” และเสียง “คุน” หรือบางทีตัวอักษรคันจิ 1 ตัว อาจจะอ่านได้มากกว่า 2 เสียงก็เป็นไปได้ตัวอย่างเช่นสูง อ่านว่า โก (高), ทะ ใกล้ (高い)พระจันทร์ อ่านได้ทั้ง เก็ดซึ, กัสซึ, ซึกิ (月)อะไร อ่านได้ทั้ง นานี่, นั่น (何)วัน อ่านได้ทั้ง บิ, นิจิ (日)"คันจิ" ที่ออกเสียงซ้ำกันอักษรคันจิมักจะมีเสียงอ่านที่ซ้ำกัน เช่นเสียงอ่านว่า คิ มีอักษรต่างๆ ที่อ่านแบบนี้แต่เขียนแตกต่างกัน (気 แปลว่ารู้สึก , 来 แปลว่ามา , 機 แปลว่าเครื่องจักร , 木 แปลว่าต้นไม้ , 期 แปลว่าระยะเวลา )เสียงที่อ่านว่า ทะ มีอักษรที่อ่านเหมือนกันแต่เขียนและมีความหมายต่างกันดังนี้ (他 แปลว่าอื่น ๆ , 田 แปลว่าที่นา , 多 แปลว่ามาก )การเขียน "คันจิ"สิ่งที่ยากสำหรับอักษรคันจิอีกอย่างคือเราต้องจำเป็นคำ ๆ ไปอย่างไม่มีหลักเกณฑ์ อักษรคันจิมีจำนวนขีดตั้งแต่1 ขีด เช่น อิจิ (一) ที่แปลว่า หนึ่ง2 ขีด เช่น นิ (二) ที่แปลว่า สอง3 ขีด เช่น ซัง (三) ที่แปลว่า สาม4 ขีด เช่น โย้ง (四) ที่แปลว่า สี่ไปจนถึง 10 กว่าขีดตัวอย่างเช่นกิน อ่านว่า ทะเบรุ (食べる) มี 9 ขีดนอน อ่านว่า เนรุ (寝る) มี 13 ขีดขึ้น อ่านว่าโนรุ (乗る) มี 9 ขีดไป อ่านว่า อิคุ (行く) มี 6 ขีดสรุปเห็นหรือยังคะว่าอักษรคันจิมีความยากขนาดไหนแต่สิ่งหนึ่งที่เป็นทริกสำหรับการเรียนอักษรคันจิคือ รากศัพท์ค่ะ ถ้าเราจำรูปภาพได้แล้ว ภาพต่าง ๆ เหล่านั้นจะมีความหมายที่แน่นอน จนเราสามารถเดาคำศัพท์ที่มาจากรากศัพท์คำนั้น ๆ ได้เลย เช่น คำว่า กักกึ (学) ตัวอย่างเช่น แปลว่านักเรียน อ่านว่า กักเซ (学生) , แปลว่าโรงเรียนอ่านว่า กักโค (学校) หรือ แปลว่าวิทยาศาสตร์อ่านว่า คะกักกึ (科学)Author: Wraporn Santikunaporn