เคล็ดลับพิชิตข้อสอบ TOEIC Speaking & Writing Test

เคล็ดลับพิชิตข้อสอบ TOEIC Speaking & Writing Test

จากในบทความก่อนหน้าที่ทางเราได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับ การสอบ TOEIC Listening & Reading ไปแล้วนั้น บทความนี้เรามาต่อกันที่การสอบ TOEIC Speaking & Writing กันบ้าง ซึ่งเป็นการสอบ TOEIC อีกรูปแบบหนึ่งที่อาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับการฟังและการอ่าน แต่ในส่วนของพาร์ตการพูดและการเขียนก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นบทความนี้เรามาดูรายละเอียดและข้อสอบ TOEIC Speaking & Writing เพื่อเตรียมความพร้อมตะลุยการสอบกันบ้าง

การสอบ TOEIC Speaking & Writing คืออะไร?

จากที่เคยให้ข้อมูลว่าการสอบ TOEIC นั้นมี 2 รูปแบบ คือ Listening & Reading และในส่วนของ Speaking & Writing ซึ่งบทความนี้จะเน้นในส่วนของข้อสอบ TOEIC Speaking & Writing หรือการสอบพูดและเขียน แต่ส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ ท่านอาจจะไม่รู้จักการสอบในรูปแบบนี้เพราะไม่รู้ว่าจะใช้คะแนนไปทำอะไร เพราะส่วนใหญ่แล้วหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ จะระบุแค่ว่าต้องการคะแนน TOEIC เท่าใดในการสมัครงาน แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องการในส่วนของพาร์ตใดเป็นหลัก ทำให้ Speaking & Writing ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและไม่ค่อยเป็นที่นิยมนั่นเอง

การสอบ TOEIC Speaking & Writing เป็นการทดสอบทักษะการพูดและการเขียนภาษาอังกฤษ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประเมินความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษในบริบทการทำงานหรือธุรกิจระหว่างประเทศ การสอบทั้ง 2 ส่วนนี้แตกต่างจากการสอบ Listening & Reading ที่เน้นทักษะการฟังและการอ่าน โดยการสอบ Speaking & Writing จะเป็นการสอบการพูดและการเขียน ช่วยวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในการทำงานและการแก้ปัญหาจริง ๆ

ข้อสอบ TOEIC Speaking

1. ข้อสอบ TOEIC Speaking

การสอบพาร์ตนี้จะใช้เวลา 20 นาที และมีทั้งหมด 11 ข้อ คำตอบที่ให้จะถูกบันทึกเสียงและส่งให้ผู้คัดกรองเพื่อตรวจสอบ คะแนนแบ่งออกเป็น 0-200 คะแนน โดยแบ่งตามระดับความสามารถของผู้สอบ

Question 1-2: Read a Text Aloud (อ่านออกเสียงข้อความ)

ผู้สอบจะต้องอ่านข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอ และออกเสียงให้ชัดเจน โดยผู้คัดกรองจะพิจารณาจากความถูกต้องของการออกเสียง น้ำเสียง และความลื่นไหล

Question 3-4: Describe a Picture (อธิบายภาพ)

ผู้สอบต้องดูภาพที่ปรากฏและบรรยายสิ่งที่เห็น โดยใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ที่ถูกต้อง เช่น ภาพอาจเป็นภาพสำนักงานหรือการประชุม ผู้สอบต้องบรรยายว่ามีใครกำลังทำอะไรในภาพ

Question 5-7: Respond to Questions (ตอบคำถาม)

ผู้สอบจะได้ฟังคำถามหรือคำขอร้องต่าง ๆ และต้องตอบสนองอย่างเหมาะสม คำถามอาจเกี่ยวกับสถานการณ์ในที่ทำงานหรือชีวิตประจำวัน

Question 8-10: Respond to Questions Using Provided Information (ตอบคำถามโดยใช้ข้อมูลที่ให้มา)

ข้อมูลในรูปแบบตารางหรือรายการจะถูกแสดงให้ดู และผู้สอบต้องตอบคำถามตามข้อมูลนั้น เช่น ข้อมูลอาจเป็นตารางเวลารถไฟ และคำถามอาจถามเกี่ยวกับเวลาออกเดินทางหรือสถานที่ปลายทาง คุณจะต้องตอบคำถามนั้นให้ถูกต้อง

Question 11: Express an Opinion (แสดงความคิดเห็น)

ผู้สอบจะต้องตอบคำถามที่ต้องการการแสดงความคิดเห็น และอธิบายเหตุผลที่สนับสนุนคำตอบของตนเอง

เกณฑ์การให้คะแนนในส่วน TOEIC Speaking

การให้คะแนนในพาร์ต Speaking นั้นจะพิจารณาจาก

  • ความถูกต้องและความลื่นไหลในการพูด
  • ความชัดเจนของการออกเสียง
  • ความสมเหตุสมผลของการตอบคำถาม
  • การใช้งานไวยากรณ์และคำศัพท์ที่ถูกต้อง

เคล็ดลับในการเตรียมตัวสำหรับ TOEIC Speaking

การทำข้อสอบ TOEIC Speaking ให้ได้คะแนนสูงต้องอาศัยการเตรียมตัวที่ดีและการฝึกฝนทักษะการพูดอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาทักษะการพูดและทำข้อสอบได้ดีขึ้น

  1. ฝึกออกเสียงให้ชัดเจนและถูกต้อง คุณจะต้องฝึกซ้อมและฝึกออกเสียงคำศัพท์ที่ยากและคำนามเฉพาะให้ชัดเจน ลองอ่านออกเสียงบทความหรือข้อความสั้น ๆ และบันทึกเสียงตัวเองเพื่อตรวจสอบการออกเสียง
  2. ฝึกการพูดให้ลื่นไหลความลื่นไหลในการพูดจะช่วยเพิ่มคะแนน โดยผู้คัดกรองจะให้ความสำคัญกับการที่คุณสามารถพูดได้ต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงักหรือใช้คำว่า "อา/เอ่อ/อืม" บ่อยเกินไป เคล็ดลับคือฝึกพูดเป็นประโยคยาว ๆ ในหัวข้อที่คุณคุ้นเคย ลองเล่าเรื่องราวประจำวันหรือความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ให้ลื่นไหลโดยไม่หยุดกลางคัน
  3. เน้นการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้องฝึกใช้โครงสร้างประโยคที่หลากหลาย เช่น ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ หรือประโยคที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การพูดของคุณมีความน่าสนใจมากขึ้น
  4. เพิ่มพูนคำศัพท์ให้มากขึ้นเรียนรู้คำศัพท์ที่มักปรากฏใน TOEIC โดยเฉพาะคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การทำงาน และชีวิตประจำวัน ฝึกใช้คำเหล่านี้ในประโยคจริงเพื่อทำให้คุณคุ้นเคยและนำไปใช้ในการสอบได้ง่ายขึ้น
  5. ตอบคำถามอย่างตรงประเด็น ใช้โครงสร้างการตอบแบบ "Introduction - Main Point - Conclusion" ในคำถามที่ต้องอธิบายหรือแสดงความคิดเห็น โดยเริ่มจากการเกริ่นนำ ตอบคำถามด้วยเหตุผลหลัก และสรุปคำตอบในตอนท้าย
  6. ฝึกจัดโครงสร้างการตอบคำถาม การให้รายละเอียดเพิ่มเติมในการตอบคำถาม เช่น เหตุผล ตัวอย่าง หรือข้อเปรียบเทียบ จะทำให้คำตอบของคุณสมบูรณ์และชัดเจนมากขึ้น
  7. ตอบคำถามด้วยรายละเอียดที่ครบถ้วน ฝึกตอบคำถามในลักษณะที่ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่ควรตอบสั้นเกินไป และควรใช้ตัวอย่างหรือเหตุผลประกอบในการตอบเสมอ
  8. ใช้เทคนิคการอธิบายภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ฝึกการบรรยายภาพโดยใช้คำที่สื่อถึงตำแหน่งและกิจกรรมของคนหรือสิ่งของในภาพ เช่น "In the background" , "On the left side" , "The man is talking on the phone."
  9. ฝึกการแสดงความคิดเห็นที่มีเหตุผล ฝึกการแสดงความคิดเห็นในหัวข้อต่าง ๆ เช่น เรื่องธุรกิจ เทคโนโลยี หรือสังคม และตอบให้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัวหรือเหตุผลเชิงตรรกะ
  10. ควบคุมความตื่นเต้น ฝึกพูดหน้ากระจกหรือพูดกับเพื่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ ลองจำลองสถานการณ์การสอบและพูดภายในเวลาที่กำหนด เพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจ ลดความตื่นเต้นเมื่อเจอสถานการณ์จริง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำแนะนำจากเราที่จะช่วยให้คุณได้คะแนนสอบ TOEIC ในพาร์ตของการพูด หรือ Speaking มากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และที่ขาดไม่ได้คือความมั่นใจ ไม่ต้องกังวลหรืออายที่จะออกสำเนียงให้ชัดเจน

ข้อสอบ TOEIC Writing

2. ข้อสอบ TOEIC Writing

การสอบพาร์ตนี้ใช้เวลา 60 นาที และมีทั้งหมด 8 ข้อ คะแนนจะแบ่งออกเป็น 0-200 คะแนน โดยแบ่งตามระดับความสามารถในการเขียน ผู้สอบต้องตอบคำถามและเขียนเรียงความในหัวข้อที่กำหนดมาให้

Question 1-5: Write a Sentence Based on a Picture (เขียนประโยคจากภาพ)

ผู้สอบต้องดูภาพและเขียนประโยค 1 ประโยคที่อธิบายภาพนั้น โดยมีคำศัพท์หรือไวยากรณ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งต้องใช้ในประโยค เช่น ภาพอาจเป็นภาพคนในที่ทำงาน พร้อมกับคำกริยา “talk” ผู้สอบต้องเขียนประโยคที่ใช้คำกริยานี้ในการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพ

Question 6-7: Respond to a Written Request (ตอบสนองคำขอที่เป็นลายลักษณ์อักษร)

ผู้สอบต้องเขียนตอบกลับอีเมลหรือข้อความที่ขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือเสนอความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น คุณอาจได้รับอีเมลจากผู้จัดการที่ถามเกี่ยวกับการวางแผนประชุม และผู้สอบต้องเขียนตอบกลับพร้อมคำแนะนำ

Question 8: Write an Opinion Essay (เขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น)

ผู้สอบจะต้องเขียนเรียงความอย่างน้อย 300 คำเกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนด โดยแสดงเหตุผลและตัวอย่างที่สนับสนุนความคิดเห็นของตัวเอง

เกณฑ์การให้คะแนนในส่วน TOEIC Writing

การให้คะแนนในพาร์ต Writing นั้นจะพิจารณาจาก

  • ความสมบูรณ์ของเนื้อหา
  • การใช้ไวยากรณ์และคำศัพท์ที่เหมาะสม
  • โครงสร้างของประโยคและการจัดการกับหัวข้อ
  • ความชัดเจนในการแสดงความคิดเห็นและให้เหตุผล

เคล็ดลับในการเตรียมตัวสำหรับ TOEIC Writing

การทำข้อสอบ TOEIC Writing ให้ได้คะแนนสูงต้องอาศัยการวางแผนที่ดีและการฝึกฝนทักษะการเขียนให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ข้อสอบนี้จะเน้นการสื่อสารที่มีโครงสร้าง ความถูกต้องของไวยากรณ์ และการใช้คำศัพท์ที่เหมาะสม ดังนั้น เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำข้อสอบ TOEIC Writing และเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนสูง

  1. เข้าใจรูปแบบข้อสอบข้อสอบจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักตามยกมาให้หัวข้อข้างต้น ผู้สอบต้องศึกษาโครงสร้างของข้อสอบในแต่ละพาร์ตให้ละเอียด เพื่อให้รู้ว่าต้องคาดหวังอะไรและเตรียมตัวอย่างไร
    1. การเขียนประโยคจากภาพ: เขียนให้ครบถ้วนและถูกต้อง คุณจะต้องตรวจสอบว่าคุณใช้คำศัพท์ที่กำหนดมาอย่างถูกต้อง และเขียนประโยคที่สมบูรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไวยากรณ์ถูกต้องและไม่ขาดส่วนสำคัญ เช่น ประธาน กริยา และกรรม เช่น ถ้าให้คำว่า “run” และภาพแสดงคนวิ่ง คุณสามารถเขียนว่า “The man is running in the park.”
    2. การตอบอีเมล: เน้นความชัดเจนและใช้โทนที่สุภาพ การตอบอีเมลต้องแสดงให้เห็นถึงทักษะการสื่อสารทางธุรกิจที่ดี โดยควรตอบคำถามที่ได้รับและแสดงความสุภาพในน้ำเสียงของการเขียน เช่น เริ่มต้นด้วยคำทักทาย เช่น "Dear Sir/Madam" หรือระบุชื่อหากมี ตอบคำถามที่ระบุไว้อย่างตรงไปตรงมา อย่าลืมสรุปคำตอบด้วยความสุภาพ ใช้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น appreciate, kindly, sincerely และตรวจสอบการใช้ไวยากรณ์และคำศัพท์ให้ถูกต้อง
    3. การเขียนเรียงความ: วางโครงสร้างอย่างชัดเจน คุณจะต้องวางโครงสร้างเรียงความแบบ Introduction – Body – Conclusion โดยเริ่มจากการแนะนำหัวข้อ ตอบคำถามหรือแสดงความคิดเห็น จากนั้นใช้เหตุผลและตัวอย่างสนับสนุนความคิดเห็นของคุณ และสรุปความเห็นในตอนท้ายอย่าลืมใช้คำเชื่อมที่ทำให้ข้อความลื่นไหล เช่น Furthermore, In addition, However, On the other hand เพื่อให้เรียงความของคุณมีความต่อเนื่อง และต้องตรวจสอบการใช้ไวยากรณ์และคำศัพท์ให้เหมาะสม พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ประโยคซ้ำ ๆ และควรหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “I think” มากเกินไป
  2. ใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ที่หลากหลายจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการเขียนของคุณ และยังแสดงให้ผู้คัดกรองเห็นว่าคุณมีทักษะทางภาษาอังกฤษในระดับสูง ซึ่งจะต้องฝึกใช้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การทำงาน และชีวิตประจำวันให้คล่องแคล่ว พยายามใช้ประโยคเชิงซับซ้อนที่มีคำเชื่อมเพื่อแสดงความสามารถในการสื่อสาร
  3. ตรวจทานการสะกดคำและไวยากรณ์ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการสะกดคำหรือไวยากรณ์อาจลดคะแนนของคุณได้ ดังนั้นการตรวจทานบทความก่อนส่งจึงเป็นสิ่งสำคัญ ให้ใช้เวลา 1-2 นาทีสุดท้ายในการตรวจทานคำสะกด ไวยากรณ์ และเครื่องหมายวรรคตอนก่อนส่งงาน โดยเฉพาะในส่วนที่ต้องตอบอีเมลและเขียนเรียงความ
  4. รักษาความเป็นทางการในการเขียนควรใช้ภาษาที่เป็นทางการและสุภาพ หลีกเลี่ยงคำพูดที่ไม่เหมาะสมหรือภาษาพูดที่ไม่เป็นทางการ เช่น “I would like to” แทน “I want to” และ “Could you please” แทน “Can you” เพื่อรักษาน้ำเสียงที่สุภาพและเป็นทางการ
  5. ฝึกการจัดสรรเวลาในการสอบเนื่องจากแต่ละพาร์ตมีเวลาจำกัด การฝึกฝนการทำข้อสอบให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดจะช่วยให้คุณสามารถทำข้อสอบได้ครบถ้วน ลองฝึกแบ่งเวลาในการตอบคำถามแต่ละส่วน โดยทุ่มเทเวลาให้มากขึ้นกับการเขียนเรียงความที่ต้องใช้เวลาและความคิดมากกว่า
  6. อ่านและฝึกฝนจากตัวอย่างการเขียนการศึกษาตัวอย่างการเขียนที่ดีจะช่วยให้คุณเรียนรู้โครงสร้างและสไตล์การเขียนที่มีประสิทธิภาพ ให้ฝึกอ่านตัวอย่างการเขียนอีเมลหรือเรียงความจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และนำรูปแบบการเขียนมาใช้ในการฝึกของคุณเอง
  7. ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องการฝึกเขียนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จัดเวลาในแต่ละวันเพื่อฝึกเขียน โดยเฉพาะในหัวข้อที่มักเจอในข้อสอบ TOEIC เช่น ธุรกิจ การทำงาน การจัดการเวลา และชีวิตประจำวัน

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับข้อสอบ TOEIC Speaking & Writing เมื่อได้เห็นข้อมูลต่าง ๆ แล้วหวังว่าจะช่วยให้ทุกคนมั่นใจกับการสอบได้มากขึ้น ข้อสอบ TOEIC Speaking & Writing นั้นออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถของผู้สอบในการสื่อสารภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงในบริบทของการทำงานและธุรกิจ การฝึกฝนทั้งสองพาร์ตนี้จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในองค์กรระดับสากล

อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวที่ดีคือการฝึกทักษะการพูดและเขียนอย่างสม่ำเสมอ โดยให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาอย่างถูกต้องชัดเจน เพื่อให้คุณมีความมั่นใจในการสอบและทำคะแนนได้ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เข้าสอบทุกท่าน

สั่งประเมินราคางานแปล ฟรี!

อัปโหลดเนื้อหา ● เลือกภาษาและบริการ ● กำหนดระยะเวลา ● รายละเอียดงานแปล ● เสร็จสิ้น

  1. อัปโหลดเนื้อหา
  2. เลือกภาษาและบริการ
  3. เลือกตัวเลือกการแปล
  4. เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติม
  5. เสร็จสิ้น
อัปโหลดต้นฉบับ
อัปโหลดไฟล์ หรือพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปลในระบบสั่งงาน
เลือกไฟล์งานที่ต้องการแปลภาษา รองรับไฟล์ทุกประเภท สามารถอัปโหลดได้มากกว่าหนึ่งไฟล์
อัปโหลดไฟล์ต้นฉบับ
การอัปโหลดไฟล์ หรือ แปลข้อความสั้น สามารถเลือกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
อัปโหลดไฟล์เพิ่มเติม
คุณสามารถพิมพ์ข้อความที่ต้องการแปล หรือทําการคัดลอกจากช่องทางอื่นๆ
ขั้นตอน 1 จาก 4
เลือกบริการและภาษา
เลือกประเภทบริการ ภาษาต้นทางและภาษาปลายทาง
บริการ *
ภาษาต้นทาง *
ภาษาปลายทาง*
ขั้นตอน 2 จาก 4
กำหนดระยะเวลา
ระยะเวลาในการเปิดเสนอราคาและระยะเวลาที่ต้องการงานแปล
ระยะเวลาเปิดเสนอราคา *
คุณต้องการงานแปลภายในกี่วัน
หลังยืนยันการชําระค่าบริการ

ขั้นตอน 3 จาก 4
ความต้องการเพิ่มเติม
แจ้งรายละเอียดหรือความต้องการอื่น ๆ เพิ่มเติมให้นักแปลทราบ
แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม
ขั้นตอน 4 จาก 4
กำลังดำเนินการ