คุณสมบัตินักแปลที่ดี
1. ต้องขยันอ่าน หากใจไม่รักการอ่านก็คงจะทำงานได้ยาก เพราะการแปลหนังสือต้องอ่าน และทำความเข้าใจกับมัน
2. ความอยาก จะต้องมีความอยากจะแปลเอกสารก่อน จึงจะเป็นนักแปลได้
3. ความอดทน อยากแปลอย่าเดียวไม่พอ จะต้องมีความอดทนด้วยค่ะ หากขาดความอดทนแล้ว จะไม่มีทางแปลเอกสารได้จบค่ะ
4. ความต่อเนื่อง เมื่อลงมือแปลแล้วจะต้องทำต่อเนื่องไม่หยุด หากหยุดกลางคันแล้วคิดจะเริ่มทำต่อนั้นยากขึ้น
5. ความรู้ในภาษาที่แปล จะต้องมีความรู้ภาษาต้นฉบับ ค่อนข้างดี ต้องอ่านรู้เรื่อง มิฉะนั้นจะตีบทไม่แตก และจะทำให้ขาดความต่อเนื่อง และขาดความอดทน แล้วก็จะทำให้หมดความอยากแปลค่ะ
6. ความรู้ภาษาไทย สำนวนแปลของเราจะทำให้ผู้อ่านติดใจหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรู้ในภาษาไทยของผู้แปลเอกสารแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้คำ
7. ความช่างสังเกต และรู้จักพลิกแพลง เนื่องจากศัพท์ หรือสำนวนภาษาอังกฤษบางคำก็ไม่ได้มีความหมายตรงภาษาไทยเสมอไป การใช้คำพูดและศัพท์ที่ใช้ในภาษาต้นฉบับให้ละเอียด แล้วแปลด้วยลีลาการใช้คำพูดและศัพท์ภาษาให้ใกล้เคียงกัน เราต้องคิดเอาเองว่า มันควรจะเข้ากับสุภาษิตแบบใด ข้อนี้รวมไปถึงคำแสลงต่างๆด้วย
8. ต้องเป็นคนรักษาเวลา เพราะหากเราไม่รักษาเวลา ตารางงานที่ทางที่ลูกค้าวางไว้ก็อาจคลาดเคลื่อนได้
9. ความใส่ใจ เพราะเอกสารหรืองานแต่ละชิ้นที่เราได้รับมา อาจจะมีเนื้อหาเฉพาะทางแตกต่างกันไป ผู้แปลที่ดีจะต้องพยายามหาความรู้ในเชิงลึกสำหรับด้านนั้นๆ เพื่อจะได้แปลถูกต้อง
10. จงรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ จงถือคำวิจารณ์เป็นสิ่งที่ให้กำลังใจ แม้ว่าบางครั้งคำวิจารณ์นั้นจะไม่ยุติธรรมและถูกต้องก็ตาม
การเป็นนักแปลนั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของคนที่สนใจเลย ต้องมีความตั้งใจและฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ และ"เครื่องมือแปลที่ดีที่สุดในโลกยังไม่มี แต่การแปลให้ดีที่สุดยังพอจะมี หากเราแปลให้เสร็จโดยที่รู้ว่าตรงไหนแปลไม่ได้หรือไม่ตรงเป๊ะ แปลผิดจึงไม่ใช่อาชญากรรม ที่สุดแล้วนักอ่านก็ยังจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของนักแปลอยู่บ้าง การแปลให้ดีที่สุดจึงควรอย่าหยุดแปล
อ้างถึง https://www.dek-d.com