นักแปลทั้งหลาย เป็นผู้ที่มีความรู้และเทคนิคในการแปลกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับท่านที่คิดจะเริ่มงานแปล อาจรู้สึกว่าการแปลเป็นงานไม่ยาก แต่ที่ยากคือทำอย่างไรจึงจะให้งานแปลออกมาดี นอกจากทักษะความรู้ความสามารถทางด้านภาษาแล้ว นักแปลต้องได้รับการฝึกฝนอยู่เสมอ นักแปลต้องมีทักษะทางภาษาอย่างน้อยสองภาษาขึ้นไป หมายรวมถึงภาษาแม่ของตนเองด้วย เพราะส่วนมากนักแปลจะแปลจากภาษาแม่ไปเป็นภาษาอื่น และแปลจากภาษาอื่นมาเป็นภาษาแม่ เนื่องจากภาษาแม่เป็นภาษาต้นทุนที่ถนัดอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันนักแปลต้องมีความรู้ภาษาอื่นที่จะใช้แปลเป็นอย่างดียิ่ง จึงจะสามารถถอดความแปลได้ ทักษะต่อมาคือทักษะความเข้าใจในภาษาต้นฉบับ ที่นักแปลต้องให้แน่ใจก่อนว่ามีความเข้าใจบริบทหรือเนื้อหาของต้นฉบับเป็นอย่างดี ก่อนที่จะถอดความออกมาเป็นอีกภาษาหนึ่ง ซึ่งหมายถึงทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ สามารถตีความทั้งภาพรวมและในรายละเอียดได้อย่างถูกต้อง รวมถึงความรู้ด้านไวยากรณ์ การใช้ศัพท์ สำนวน ของภาษาที่จะแปลออกมาได้อย่างถูกต้อง เช่นกัน โดยต้องคำนึงเสมอว่า เรากำลังแปลงานประเภทใด ต้องใช้ภาษาระดับไหน เช่น การแปลบทความวิชาการ สารคดี บทภาพยนต์ นวนิยาย หรืออื่นๆ ควรใช้ภาษาอย่างไร ต้องคงความหมายจากต้นฉบับไว้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น การแปลจึงต้องคำนึงถึงศิลปะของการใช้ภาษา นักแปลต้องกำหนดไว้ว่าควรจะใช้ภาษาแบบใด โดยพิจารณาจากต้นฉบับ เช่นต้นฉบับใช้ภาษาแบบทางการ เราก็ต้องใช้ภาษาที่แปลออกมาเป็นแบบทางการ โดยเฉพาะงานด้านวิชาการ ภาษาต้องเป็นทางการ ใช้ศัพท์ทางเทคนิคและเรียบเรียงภาษาได้ถูกต้อง ใช้ภาษาที่เหมาะสม อ่านแล้วเข้าใจได้ดี คงความหมายเดิมของต้นฉบับไว้ ไม่แต่งเติมนอกเหนือจากต้นฉบับ ไม่ดัดแปลงหรือตัดความของต้นฉบับ ที่สำคัญนักแปลต้องมีความรู้ในบริบทหรือเนื้อหาเรื่องที่แปล เพื่อให้เกิดความเข้าใจก่อนการถ่ายทอดออกมาเป็นอีกภาษาหนึ่ง บางครั้งนักแปลต้องแปลเรื่องที่ไม่ถนัด จึงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ซึ่งปัจจุบันทำได้ไม่ยาก นักแปลสามารถหาความรู้ได้จากสื่ออนไลน์มากมาย
ที่สำคัญกว่ารายได้พิเศษเล็กๆ น้อยๆ แต่มีค่าต่อเรามาก คือความรู้ที่ท่านได้รับเพิ่มพูนมาจากงานแปลที่ไม่รู้จบ ยิ่งแปลก็ยิ่งรู้เรื่องใหม่ๆ มากขึ้น มากพอๆ กับ การได้ฝึกใช้ภาษาอย่างต่อเนื่อง สะสมประสบการณ์ไปด้วย สำหรับผู้เขียน มีความสุขมากๆ กับการทำงานแปล แปลจนติดเป็นนิสัย พบเรื่องอะไรใหม่ๆ ดีๆ ก็จะนำมาแปลไว้อ่านกันในกลุ่มที่สนใจ ผู้เขียนจึงหวังว่าท่านที่เป็นนักแปลหรือผู้ที่กำลังเริ่มงานแปลก็คงมีความรู้สึกและรักในงานนี้เช่นกัน